top of page

“ออมไว้ก่อน” อาจไม่พอ: สำรวจความเชื่อเก่า เพื่อสร้างนิสัยการเงินที่ยั่งยืนให้เด็กยุคใหม่

เราทุกคนล้วนอยากให้ลูกมีวินัยทางการเงิน และหนึ่งในคำสอนที่ถูกถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่นคือ…

“ออมไว้ก่อน ใช้ทีหลัง”

แม้ความตั้งใจจะดี แต่บางครั้ง คำสอนเรื่องการออมแบบเดิม อาจกลายเป็น "กรอบจำกัด" ที่ทำให้เด็กเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้เงิน และอาจเติบโตมาโดยขาดความยืดหยุ่นทางความคิดหรือความมั่นใจในการจัดการเงินของตนเอง

ลองมาสำรวจความเชื่อเหล่านี้ในมุมใหม่ไปด้วยกันค่ะ

1. “ยิ่งออมมาก ยิ่งเก่ง”

ในหลายบ้าน เด็กถูกชมเมื่อนำเงินทั้งหมดไปหยอดกระปุก จนเกิดความเชื่อว่า ออมมากที่สุด = ดีที่สุด

แต่...จริงๆ แล้ว “วินัยทางการเงิน” คือการรู้จักบริหารเงิน ไม่ใช่เก็บไว้เฉยๆเด็กบางคนโตไปด้วยความรู้สึกผิดเมื่อใช้เงิน แม้จะใช้ในสิ่งที่มีคุณค่า เช่น หนังสือ อุปกรณ์เรียน หรือกิจกรรมเสริมทักษะ

สิ่งที่ควรเสริม:ใช้หลัก 6 Jars หรือ Money Allocation เพื่อให้เด็กแบ่งเงินเป็น “ออม-ใช้-ให้-เรียนรู้” อย่างสมดุล(อ้างอิง: Jar System โดย T. Harv Eker)

2. “เด็กไม่ต้องรู้เรื่องเงิน เดี๋ยวโตค่อยเข้าใจ”

ความเชื่อแบบนี้ทำให้เด็กไม่มีพื้นที่ฝึกฝน กลายเป็น “คนโตที่ไม่มีทักษะทางการเงิน”

จากงานวิจัยของ Cambridge University (2013) พบว่า

พฤติกรรมการใช้เงินของคนเรา เริ่มก่อตัวตั้งแต่อายุ 7 ขวบ!

สิ่งที่ควรเสริม:ให้เด็กมีประสบการณ์จริง เช่น ได้บริหารค่าขนม ทำบันทึกใช้จ่าย หรือขายของเล่นเก่า เพื่อเรียนรู้จากสถานการณ์จริง

3. “ออมเงินไว้ก่อน แล้วค่อยคิดว่าจะเอาไปทำอะไร”

ฟังดูดี แต่ขาด "เป้าหมาย" ที่ทำให้เด็กเชื่อมโยงการออมกับความฝันของตัวเอง

การออมที่ไม่มีเป้าหมาย = การบังคับโดยไม่มีแรงบันดาลใจสมองของเด็กจะจดจำว่า “การออมคือการอด” แทนที่จะจดจำว่า “การออมคือการสร้างอนาคต”

สิ่งที่ควรเสริม:สอนให้เด็กวางแผนการออมด้วย Vision Board หรือ “เงินเพื่อเป้าหมาย” เช่น ซื้อจักรยาน หรือเข้าแคมป์ coding ที่เขาสนใจ

4. “เงินเก็บห้ามใช้เด็ดขาด”

ในบางครอบครัว เงินเก็บ = ของศักดิ์สิทธิ์ที่แตะไม่ได้

แต่ในชีวิตจริง เราต้องรู้ว่า “เมื่อไหร่ควรใช้” และ “ใช้เพื่ออะไร”การฝึกเด็กให้ตัดสินใจใช้เงินเก็บในจังหวะที่เหมาะสม เป็นการฝึกทักษะ EF ด้าน Decision Making

สิ่งที่ควรเสริม:ให้เด็กมี “บัญชีเงินออมเพื่อเป้าหมาย” และ “บัญชีฉุกเฉิน” เพื่อเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงตั้งแต่เล็ก


บทสรุปจากใจครูกุ้ง

การออมเป็นเพียงส่วนหนึ่งของทักษะการเงินสิ่งสำคัญกว่าคือ…

“เราจะสอนเด็กอย่างไรให้เขา รู้คุณค่า ของเงินไม่ใช่แค่กลัวการใช้มัน”

หากเรากล้าปรับความเชื่อเดิมเพียงเล็กน้อย เราจะได้เห็นเด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มี “ปัญญาทางการเงิน”และพร้อมสร้างอนาคตของเขาเองอย่างมั่นคง



หากคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูท่านใดอยากฝึกลูกเรื่องการเงินผ่านกิจกรรมสนุกๆครูกุ้งยินดีแบ่งปันแบบฝึกฟรี หรือจัด workshop ที่โรงเรียน

ติดต่อได้เลยที่ Line OA: @krukoong



PDF คู่มือพ่อแม่สอนการเงินลูก
Buy Now

Comments


bottom of page