ถอดรหัสคำว่า ‘ขี้เกียจ’ ที่อาจเป็นแค่เสียงของใจที่ยังไม่ถูกฟัง พ่อแม่สามารถส่งเสริมพัฒนาการเด็กได้
- Rattana Aussawaprasitkul
- Mar 31
- 1 min read
“หนูขี้เกียจเรียนค่ะ” “หนูไม่อยากทำอะไรเลย” พ่อแม่หลายคนได้ยินแล้ว “รีบสอน” แต่ครูกุ้งอยากชวนให้... “รีบฟัง” เพื่อเข้าใจ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการเด็ก
เพราะเด็กที่พูดว่าขี้เกียจ อาจไม่ได้รู้สึก “ขี้เกียจจริง ๆ”แต่กำลังสื่อสารบางอย่างที่ลึกกว่านั้น เช่น“หนูไม่เห็นคุณค่าในสิ่งที่เรียน”“หนูรู้สึกไม่มีแรงจูงใจ”“หนูไม่เข้าใจเป้าหมายของการทำสิ่งนี้เลย”
Self-Talk ที่เด็กใช้ บอกอะไรเรา?
ตามแนวคิดของ Albert Ellis และ Aaron Beck ซึ่งเป็นบิดาแห่ง CBT (Cognitive Behavioral Therapy)สิ่งที่เราพูดกับตัวเอง (Self-Talk) จะสะท้อน "Core Beliefs" ที่ฝังลึก
เด็กที่พูดว่า "ขี้เกียจ" บ่อย ๆ อาจ:
กลัวล้มเหลว
เคยพยายามแล้วไม่สำเร็จ
รู้สึกว่าเรียนไปก็ไม่มีความหมาย
EF กับคำว่า "ขี้เกียจ"
เด็กที่ ขาด Goal-Directed Persistence จะไม่รู้ว่าทำไปเพื่ออะไร
เด็กที่ Inhibitory Control ต่ำ จะห้ามใจไม่ได้เมื่อเจอสิ่งล่อใจ
เด็กที่ Self-Monitoring ยังไม่พัฒนา จะไม่รู้ว่าอารมณ์กำลังพาไปไหน

เปลี่ยนการสอน เป็นการค้นหาความหมาย
“หนูรู้สึกยังไงกับวิชานี้?”
“อะไรทำให้หนูเบื่อหรือหมดแรงใจ?”
“หนูเคยมีวิชาไหนที่เรียนแล้วรู้สึกดี?”
“เราจะเปลี่ยนวิชานี้ให้มีความหมายขึ้นยังไงได้บ้าง?”
จุดจบ ❌ กับ จุดไปต่อ ✅
❌ “ลูกขี้เกียจ! ต้องใช้วินัย”
✅ “คำว่าขี้เกียจ อาจเป็นเพียงเสียงที่รอให้พ่อแม่เข้าไปฟังให้ลึกขึ้นอีกนิด”
แหล่งอ้างอิงแนวคิด
Ellis, A. (1962). Reason and Emotion in Psychotherapy
Beck, A. T. (1976). Cognitive Therapy and the Emotional Disorders
Harvard University: EF & Motivation Development Resources
Comments